พระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ กำหนดเขตที่ดินเวนคืนกทม.-สมุทรปราการ

ราชกิจจานุเบกษา เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ พระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืนในท้องที่ตำบลราชาเทวะ ตำบลหนองปรือ ตำบลบางโฉลง อำเภอบางพลี ตำบลศีรษะจรเข้ใหญ่ ตำบลบางเสาธง อำเภอบางเสาธง และตำบลบางบ่อ อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ พ.ศ. 2563 ความว่า พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า

โดยที่เป็นการสมควรกำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลราชาเทวะ ตำบลหนองปรือ ตำบลบางโฉลง อำเภอบางพลี ตำบลศีรษะจรเข้ใหญ่ ตำบลบางเสาธง อำเภอบางเสาธง และตำบลบางบ่อ อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ เพื่อสร้างทางหลวงชนบท สายเชื่อมระหว่างทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 3256 กับถนนรัตนโกสินทร์ 200 ปี

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 175 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 8 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนและการได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. 2562 และมาตรา 68/1 แห่งพระราชบัญญัติทางหลวง พ.ศ. 2535 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติทางหลวง (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2549 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้

มาตรา 1พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า“พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลราชาเทวะ ตำบลหนองปรือ ตำบลบางโฉลง อำเภอบางพลี ตำบลศีรษะจรเข้ใหญ่ ตำบลบางเสาธง อำเภอบางเสาธง และตำบลบางบ่อ อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ พ.ศ. 2563”

มาตรา 2พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป

มาตรา 3ที่ดินที่จะเวนคืนตามพระราชกฤษฎีกานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ในการสร้างทางหลวงชนบท สายเชื่อมระหว่างทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3256 กับถนนรัตนโกสินทร์ 200 ปี

มาตรา 4พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับได้มีกำหนดห้าปี

มาตรา 5เขตที่ดินที่จะเวนคืนตามพระราชกฤษฎีกานี้ อยู่ในท้องที่ตำบลราชาเทวะ ตำบลหนองปรือ ตำบลบางโฉลง อำเภอบางพลี ตำบลศีรษะจรเข้ใหญ่ ตำบลบางเสาธง อำเภอบางเสาธง และตำบลบางบ่อ อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ มีส่วนแคบที่สุดสองร้อยเมตร และส่วนกว้างที่สุดหนึ่งพันห้าร้อยเมตร ทั้งนี้ ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้

มาตรา 6ให้เริ่มต้นเข้าสำรวจที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ภายในแนวเขตที่ดินที่จะเวนคืนตามพระราชกฤษฎีกานี้ภายในหนึ่งร้อยแปดสิบวันนับแต่วันที่พระราชกฤษฎีกานี้ใช้บังคับ

มาตรา 7ให้กรมทางหลวงชนบทเป็นเจ้าหน้าที่ในการเวนคืน

มาตรา 8ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้

ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี

หมายเหตุ – เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากมีความจำเป็นต้องสร้างทางหลวงชนบท สายเชื่อมระหว่างทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3256 กับถนนรัตนโกสินทร์ 200 ปี ในท้องที่ตำบลราชาเทวะ ตำบลหนองปรือ ตำบลบางโฉลง อำเภอบางพลี ตำบลศีรษะจรเข้ใหญ่ ตำบลบางเสาธง อำเภอบางเสาธง และตำบลบางบ่อ อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ เพื่ออำนวยความสะดวกและความรวดเร็วแก่การจราจรและการขนส่งอันเป็นกิจการสาธารณูปโภค สมควรกำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืนในท้องที่ดังกล่าว เพื่อให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีสิทธิเข้าไปทำการสำรวจเพื่อให้ทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่ต้องได้มาโดยแน่ชัด จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้

ในวันเดียวกันนี้ เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ พระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืน ในท้องที่แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2563 ความว่า พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า

โดยที่เป็นการสมควรกำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืนในท้องที่แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร เพื่อสร้างและขยายทางหลวงท้องถิ่น สายทางยกระดับเชื่อมระหว่างอาคารอู่จอด และซ่อมบำรุงรถไฟฟ้ากับถนนวิภาวดีรังสิต

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 175 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 8 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนและการได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. 2562 และมาตรา 68/1 แห่งพระราชบัญญัติทางหลวง พ.ศ. 2535 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติทางหลวง (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2549 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้

มาตรา 1พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า“พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืน ในท้องที่แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2563”

มาตรา 2พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป

มาตรา 3ที่ดินที่จะเวนคืนตามพระราชกฤษฎีกานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ในการสร้างและขยายทางหลวงท้องถิ่น สายทางยกระดับเชื่อมระหว่างอาคารอู่จอดและซ่อมบำรุงรถไฟฟ้ากับถนนวิภาวดีรังสิต

มาตรา 4พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับได้มีกำหนดสี่ปี

มาตรา 5เขตที่ดินที่จะเวนคืนตามพระราชกฤษฎีกานี้ อยู่ในท้องที่แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร มีส่วนแคบที่สุดหนึ่งร้อยเมตร และส่วนกว้างที่สุดสามร้อยเมตร

ทั้งนี้ ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้

มาตรา 6ให้เริ่มต้นเข้าสำรวจที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ภายในแนวเขตที่ดินที่จะเวนคืนตามพระราชกฤษฎีกานี้ภายในหนึ่งร้อยยี่สิบวันนับแต่วันที่พระราชกฤษฎีกานี้ใช้บังคับ

มาตรา 7ให้กรุงเทพมหานครเป็นเจ้าหน้าที่ในการเวนคืน

มาตรา 8ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้

ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี

หมายเหตุ – เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากมีความจำเป็นต้องสร้างและขยายทางหลวงท้องถิ่น สายทางยกระดับเชื่อมระหว่างอาคารอู่จอดและซ่อมบำรุงรถไฟฟ้ากับถนนวิภาวดีรังสิต ในท้องที่แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร เพื่ออำนวยความสะดวกและความรวดเร็วแก่การจราจรและการขนส่งอันเป็นกิจการสาธารณูปโภค สมควรกำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืนในท้องที่ดังกล่าว เพื่อให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีสิทธิเข้าไปทำการสำรวจเพื่อให้ทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่ต้องได้มาโดยแน่ชัด จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้

ในวันเดียวกันนี้ เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ พระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืนในท้องที่แขวงบางแคเหนือ เขตบางแค แขวงบางหว้า แขวงบางด้วน แขวงคลองขวาง เขตภาษีเจริญ และแขวงบางเชือกหนัง แขวงบางพรม แขวงบางระมาด แขวงฉิมพลี แขวงตลิ่งชัน เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2563 ความว่า พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า

โดยที่เป็นการสมควรกำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืน ในท้องที่แขวงบางแคเหนือ เขตบางแค แขวงบางหว้า แขวงบางด้วน แขวงคลองขวาง เขตภาษีเจริญ และแขวงบางเชือกหนัง แขวงบางพรม แขวงบางระมาด แขวงฉิมพลี แขวงตลิ่งชัน เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร เพื่อสร้างและขยายทางหลวงท้องถิ่น สายถนนพุทธมณฑลสาย 1

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 175 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 8 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนและการได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. 2562 และมาตรา 68/1 แห่งพระราชบัญญัติทางหลวง พ.ศ. 2535 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติทางหลวง (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2549 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้

มาตรา 1พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า“พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืน ในท้องที่แขวงบางแคเหนือ เขตบางแค แขวงบางหว้า แขวงบางด้วน แขวงคลองขวาง เขตภาษีเจริญ และแขวงบางเชือกหนัง แขวงบางพรม แขวงบางระมาด แขวงฉิมพลี แขวงตลิ่งชัน เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2563”

มาตรา 2พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป

มาตรา 3ที่ดินที่จะเวนคืนตามพระราชกฤษฎีกานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ในการสร้างและขยายทางหลวงท้องถิ่น สายถนนพุทธมณฑลสาย 1

มาตรา 4พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับได้มีกำหนดสี่ปี

มาตรา 5เขตที่ดินที่จะเวนคืนตามพระราชกฤษฎีกานี้ อยู่ในท้องที่แขวงบางแคเหนือ เขตบางแค แขวงบางหว้า แขวงบางด้วน แขวงคลองขวาง เขตภาษีเจริญ และแขวงบางเชือกหนัง แขวงบางพรม แขวงบางระมาด แขวงฉิมพลี แขวงตลิ่งชัน เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร มีส่วนแคบที่สุดหกสิบเมตร และส่วนกว้างที่สุดหนึ่งพันห้าร้อยเมตร ทั้งนี้ ภายในแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกานี้

มาตรา 6ให้เริ่มต้นเข้าสำรวจที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ภายในแนวเขตที่ดินที่จะเวนคืนตามพระราชกฤษฎีกานี้ภายในหนึ่งร้อยยี่สิบวันนับแต่วันที่พระราชกฤษฎีกานี้ใช้บังคับ

มาตรา 7ให้กรุงเทพมหานครเป็นเจ้าหน้าที่ในการเวนคืน

มาตรา 8ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้

ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี

หมายเหตุ – เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากกรุงเทพมหานครได้ทำการสำรวจเขตที่ดินเพื่อเวนคืนตามพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อสร้างและขยายทางหลวงเทศบาล สายถนนพุทธมณฑลสาย 1 พ.ศ. 2546 ในท้องที่แขวงฉิมพลี แขวงบางระมาด แขวงบางพรม แขวงบางเชือกหนัง เขตตลิ่งชัน แขวงคลองขวาง แขวงบางด้วน แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ และแขวงบางแคเหนือ เขตบางแค กรุงเทพมหานคร ยังไม่แล้วเสร็จ ประกอบกับมีความจำเป็นต้องสร้างและขยายทางหลวงท้องถิ่นดังกล่าวเพิ่มเติม เพื่ออำนวยความสะดวกและความรวดเร็วแก่การจราจรและการขนส่งอันเป็นกิจการสาธารณูปโภค สมควรกำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืน ในท้องที่แขวงบางแคเหนือ เขตบางแค แขวงบางหว้า แขวงบางด้วน แขวงคลองขวาง เขตภาษีเจริญ และแขวงบางเชือกหนัง แขวงบางพรม แขวงบางระมาด แขวงฉิมพลี แขวงตลิ่งชัน เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร เพื่อให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีสิทธิ์เข้าไปทำการสำรวจเพื่อให้ทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่ต้องได้มาโดยแน่ชัด จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้

Powered by Froala Editor