พาทรัมป์ลงหลุม Presidential bunker จลาจลประชิดทำเนียบขาว

ปธน.ทรัมป์ ถูกนำตัวลงหลุมหลบภัย หลังกลุ่มประท้วงได้รวมตัวด้านนอกทำเนียบขาว

วันนี้ (1 มิ.ย.63) การประท้วงเหยียดสีผิวในสหรัฐฯ ลุกลามบานปลายหลายสิบเมืองทั่วประเทศต่อเนื่องเกือบ 1 สัปดาห์แล้ว ถึงกับทำให้สำนักข่าวยักษ์ใหญ่อย่าง CNN ขนานนามว่านี่คือการประท้วงที่รุนแรงที่สุดที่เคยเจอมา

จากม๊อบที่ต้องการแสดงออกถึงความไม่พอใจเรื่องการถูกเหยียดสี แต่ตอนนี้ได้กลายเป็นจลาจล ปล้นสดมภ์ไปทั่วทุกหัวระแหง จุดไฟเผาอาคารบ้านเรือน อาคารพาณิชย์ และอาคารราชการ

กลุ่มม็อบยังได้เข้าใกล้ทำเนียบขาว ในกรุงวอชิวตัน ดีซี ตั้งแต่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา และจากการที่กลุ่มผู้ประท้วงได้รวมตัวด้านนอกทำเนียบขาว ทำให้เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวต้องพาตัวประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เข้าหลบภายในหลุมหลบภัยใต้ดินของทำเนียบขาว หรือที่เรียกว่า “presidential bunker” ในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ ไม่ถึง 1 ชั่วโมง ก่อนที่จะถูกพาขึ้นบันไดกลับมาด้านบน และนอกจากนี้ยังพบว่าสุภาพสตรีหมายเลข 1 นางเมลาเนีย ทรัมป์ และลูกชาย บาร์รอน ทรัมป์ ก็ถูกพาลงไปหลบที่ห้องใต้ดินด้วยเช่นกัน

เนื่องจากตามกฎหมายในการปกป้องประธานาธิบดีแล้ว หากมีสถานการณ์ใดที่ทำเนียบขาวยกระดับให้เป็นสีแดง จะต้องทำการเคลื่อนย้ายประธานาธิบดีไปไว้ในที่ปลอดภัยและครอบครัวของผู้นำทุกคนจะต้องได้รับการคุ้มครองไว้ด้วยเช่นเดียวกัน

เมื่อช่วงกลางดึกวันอาทิตย์ (31 พ.ค.) ทำเนียบขาวได้ประกาศเตือนเจ้าหน้าที่ทุกคนที่จำเป็นต้องเดินทางไปทำงานในวันจันทร์ จะต้องซ่อนบัตรผ่านเอาไว้จนกว่าจะไปถึงจุดตรวจของตำรวจลับประจำทำเนียบขาว และต้องซ่อนเอาไว้ตอนขากลับด้วยเช่นกัน ซึ่งกลุ่มผู้ประท้วงบริหารด้านหน้าทำเนียบขาวได้สิ้นสุดลงเพียงไม่กี่ชั่วโมง หลังจากที่ทรัมป์ออกมาประกาศว่าตัวเขาปลอดภัย และยังได้กล่าวโจมตีนายกเทศมนตรีจากพรรคเดโมแครต มูเรียล โบวเซอร์ ที่ไม่ยอมให้ตำรวจเข้าร่วมจัดการ พร้อมกล่าวยกย่องกลุ่มผู้สนับสนุนเขาที่รวมตัวกับในค่ำคืนเดียวกัน

นอกจากนี้ ทรัมป์ยังบอกด้วยว่า การที่เขาถูกนำตัวเข้าไปใน presidential bunker นั้น มันคือพื้นที่ที่ปลอดภัยที่สุดที่เขาสัมผัสได้ ท่ามกลางกลุ่มผู้ประท้วงด้านนอกอีกทั้งยังระบุว่า มีสุนัขและอาวุธหนักเตรียมเอาไว้ด้านในบังเกอร์ด้วย

คำถามที่ชาวอเมริกันต้องการคำตอบในเวลานี้คือ ผู้นำของเขาอยู่ที่ใดเพราะตามปกติเมื่อมีสถานการณ์ที่ไม่ปกติ “บิดาแห่งประเทศ”จะต้องอกอมาแสดงตัว และกล่าวกับฝูงชนถึงสถานการณ์ว่าจะรับมืออย่างไร หรือแม้แต่ที่เป็นพื้นฐานที่สุด นั่นคือการกล่าวแสดงความเสียใจกับผู้เสียชีวิตแต่ไม่ใช่กับทรัมป์ ที่กลับยังไปร่วมในงานปล่อยนักบินอวกาศของนาซ่ากับสเปซเอ็กซ์ อยู่เลย พร้อมกับยังคงปรากฎตัวในทวิตเตอร์เติมเชื้อไปอยู่เนือง ๆ

อีกทั้งยังมีการระบุในทวิตเตอร์เมื่อวันาอาทิตย์ ว่า ต้องการให้มีการประกาศให้กลุ่ม Antifa (ย่อมาจาก anti-fascists) เป็นกลุ่มก่อการร้าย พร้อมกล่าวโทษว่าความรุนแรงในตอนนี้เกิดขึ้นเพราะกลุ่มซ้ายจัดกลุ่มนี้ แต่รัฐบาลสหรัฐฯไม่มีอำนาจในการระบุว่ากลุ่มใดเป็นกลุ่มก่อการร้ายภายในประเทศเหมือบกับกลุ่มก่อการร้ายต่างประเทศ

แท้จริงแล้วในสหรัฐฯมีกลุ่มที่หัวรุนแรงหลายกลุ่ม ทั้งกลุ่มซ้ายจัด, ขวาจัด ซึ่งแม้จะมีจุดยืนที่ตรงข้ามกันอย่างชัดเจน แต่สิ่งที่มักจะเกิดขึ้นเหมือนกันคือ การโจมตีตำรวจและรัฐบาล และในครั้งนี้ทรัมป์และรัฐบาลของทรัมป์ได้มุ่งเป้าไปยังกลุ่ม Antifa ว่ามีส่วนสำคัญอย่างมากในการกอ่อควมรุนแรงที่มีการใช้ระเบิด Molotove , พลุไฟ และแก๊ส เผาอาคารในหลายเมือง

กลุ่ม แอนติฟา (Antifa) คืออะไร? คือการรวมตัวหลวง ๆ ของประชาชนที่มีอุดมการณ์ทางการเมืองซ้ายจัด โดยมีจุดยืนที่ยากจะอธิบายโดยสมาชิกหลายคนให้การสนับสนุนประชาชนที่ถูกกดขี่และประท้วงต่อต้านกลุ่มคนรวยและชนชั้นสูง ด้วยวิธีการแสดงออกที่รุนแรง เพื่อส่งสารไปยังสาธารณะ

แอนติฟามีมานานหลายสิบปีแล้ว ก่อตั้งขึ้นเพื่อต่อต้านนโยบาย ฟาสซิสต์ ในยุโรป ในยุค 1920-1930 โดยเริ่มก่อตั้งในยุค 1980 ซึ่งนับตั้งแต่ยุค 2000 กลุ่มแอนติฟาแทบไม่ได้เคลื่อนไหวอีกเลย จนกระทั่งถึงยุคของโดนัลด์ ทรัมป์ และกลุ่มขวาจัดเข้ามาปกครอง

กลุ่มแอนติฟา มีแนวความคิดต่อต้านฟาสซิสต์ ต่อต้านการเหยียดผิวและในหลายวันที่ผ่านมากลุ่มนี้ก็เริ่มเคลื่อนไหวภายในแนวความคิดเดิมนั่นคือ ต่อต้านกลุ่มขวาจัดหรือพวกอนุรักษ์นิยม ที่เหยียดสีผิว

สำนักข่าว BBC ระบุว่า ได้สัมภาษณ์สมาชิกกลุ่มในเมืองโอเรกอน พวกเขามาจากหลากหลายกลุ่มการเมืองและตอนนี้จุดหมายเดียวกันของพวกเขาคือ การต่อต้านรัฐบบาลซึ่งพวกเขามองว่าแสดงออกซึ่งความเป็นเผด็จการ ซึ่งพวกเขาไม่เพียงแต่ต่อต้านรัฐบาลแต่ต่อต้านความเคลื่อนไหวใดๆที่นำไปสู่ฟาสซิสต์