นายกฯ ขู่กลับมาเคอร์ฟิวใหม่หากไม่ร่วมมือ
นายกรัฐมนตรี เผย หากคลายล็อกระยะ 4 แล้วยังฝ่าฝืน สามารถกลับมาประกาศเคอร์ฟิวควบคุมได้ ย้ำสำคัญที่สุดคือทุกคนต้องร่วมมือ ไม่ให้สถานการณ์แพร่ระบาดเกิดซ้ำ และพร้อมประเมินสถานการณ์ต่อเนื่อง
วันนี้ (15 มิ.ย.63) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงมาตรการคลายล็อกระยะ 4 ว่า ประชาชนต้องร่วมมือกัน ซึ่งเมื่อคืนที่ผ่านมาก็พบว่ามีเด็กวัยรุ่นออกมาจับกลุ่มแข่งรถจักรยานยนต์ ซึ่งนี่คือคนที่ไม่ให้ความร่วมมือ เพราะฉะนั้นสังคมและผู้ปกครองต้องช่วยกัน หากยังเป็นเช่นนี้ก็จะกลับมาประกาศเคอร์ฟิวใหม่ ถ้าทุกคนไม่รู้จักควบคุมตัวเอง
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ต้องควบคุมดูแลกรณีที่เด็กวัยรุ่นออกมาแข่งรถจักรยานยนต์ ที่แม้ไม่มีเคอร์ฟิวก็ต้องถูกจับกุมอยู่แล้ว และวันนี้จับกุมต้องถูกจำคุกทันที และค่อยพิจารณาเรื่องกาประกันตัวต่อไป เพราะถือเป็นการสร้างความรำคาญให้ผู้อื่นและแพร่ระบาดโรค ซึ่งวันนี้ยังมีการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ อยู่ พร้อมกับให้เจ้าหน้าที่ปรับเปลี่ยนจากด่านเคอร์ฟิว เป็นด่านจับกุมเด็กวัยรุ่นแทน
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ขณะที่สถานประกอบการทั้งหมดต้องช่วยกันดูแลตามมาตรการผ่อนคลายของรัฐและต้องขอบคุณบางผู้ประกอบการที่มีมาตรการเพิ่มเติมอีก ถือเป็นการช่วยชาติ ช่วยประชาชนและธุรกิจตัวเองด้วย ทุกอย่างต้องมีสองทางเสมอ โดยรัฐบาลทำในระดับนโยบายตามลำดับจนสถานการณ์ดีขึ้น ซึ่งทุกอย่างอยู่ที่ความร่วมมือของประชาชนใช่หรือไม่ เพราะหากมีการผ่อนปรนไปแล้วแต่ไม่ได้รับความร่วมมือ ทุกอย่างก็ต้องกลับเข้าสู่ที่เดิม สิ่งที่ตนเป็นห่วงคือไม่อยากให้ทุกอย่างกลับสู่ที่เดิม เพราะจะเกิดผลกระทบกับเศรษฐกิจและสุขภาพ
ทั้งนี้ ต้องดูว่าเมื่อผ่อนคลายระยะ 4 ไปแล้ว สถิติการการแพร่ระบาดในแต่ละวันจะเพิ่มขึ้นหรือไม่อย่างไร ซึ่งวันนี้ยังโชคดีที่พบว่าเป็นการแพร่ระบาดจากต่างประเทศ และอยู่ในสถานที่กักกันตัวของรัฐ หรือ State Quarantine ที่รัฐตั้งขึ้นมาเพื่อดูแล จึงสามารถควบคุมได้ โดยในช่วงแรกประชาชนยังไม่ได้รับความร่วมมือ แต่วันนี้ได้เห็นประโยชน์ว่าที่ทำไปแล้วได้ผลดีอย่างไร ทุกอย่างอาจจะไม่เสรี 100% เพราะด้วยข้อจำกัดด้านสุขภาพ
Powered by Froala Editor