ข่าวออนไลน์
9 ก.ค. ป่วย 5 ราย กลับจากต่างประเทศ

9 ก.ค. ป่วย 5 ราย กลับจากต่างประเทศ

9 ก.ค. ป่วย 5 ราย กลับจากต่างประเทศ

ศบค.เผยพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 5 ราย เป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ


นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ว่า พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรายใหม่ 5 ราย ซึ่งเป็นผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศที่พักอยู่ใน State Quarantine ส่วนในประเทศไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ต่อเนื่องเป็นเวลา 45 วันนับตั้งแต่วันที่ 25 พ.ค.เป็นต้นมา

สำหรับผู้ป่วยยืนยันสะสมล่าสุดอยู่ที่ 3,202 ราย เป็นผู้ป่วยในประเทศ 2,444 ราย และผู้ป่วยใน State Quarantine จำนวน 265 ราย วันนี้มีผู้หายป่วยเพิ่ม 11 ราย ทำให้จำนวนผู้ป่วยรักษาหายแล้วรวม 3,085 ราย และยังมีผู้ป่วยรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 59 ราย ขณะที่ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม โดยยอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 58 ราย

ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 5 รายนั้น พบว่า 4 รายแรกเดินทางกลับจากสหรัฐอาหรับอิมิเรตส์ เป็นชายไทย 3 ราย อายุ 38, 40 และ 54 ปี และหญิงไทยอายุ 42 ปี ทั้งหมดอาชีพรับจ้าง เดินทางถึงไทยวันที่ 2 ก.ค.จากนั้นเข้าพัก State Quarantine ที่กรุงเทพ และ จ.ชลบุรี โดยตรวจหาเชื้อวันที่ 7 ก.ค.ผลตรวจพบเชื้อ แต่ทั้งหมดไม่มีอาการ

อีก 1 รายเป็นนักศึกษาชายไทย อายุ 22 ปี เดินทางกลับจากประเทศอียิปต์ถึงไทยวันที่ 8 ก.ค. ผ่านการคัดกรอง ณ ด่านควบคุมโรค พบมีอาการได้กลิ่นและรับรู้รสลดลง จึงส่งตรวจหาเชื้อและผลตรวจพบเชื้อ


"การตรวจหาเชื้อคนไทยที่กักตัวใน State Quarantine ช่วงหลังๆ ที่พบผู้ยืนยันติดเชื้อส่วนใหญ่จะมีอาการน้อยมาก เนื่องจากเป็นวัยแรงงาน โดยในช่วงตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.มาจนถึงวันที่ 8 ก.ค.พบผู้ยืนยันติดเชื้อที่แสดงอาการราว 1 ใน 4" นพ.ทวีศิลป์ กล่าว


ขณะที่สถานการณ์ทั่วโลกมีผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรายใหม่ 214,892 ราย ทำให้มียอดผู้ป่วยยืนยันสะสมล่าสุดอยู่ที่ 12,164,173 ราย โดยสหรัฐมีผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรายใหม่ 61,848 ราย ทำให้มียอดผู้ป่วยยืนยันสะสมสูงสุดอยู่ที่ 3,158,392 ราย ส่วนประเทศไทยอยู่ที่อันดับ 99 เริ่มถอยหลังไปเรื่อยๆ


"แม้ยอดผู้ติดเชื้อในประเทศไทยจะเป็นศูนย์ต่อเนื่องมา 45 วันแล้ว แต่สถานการณ์ทั่วโลกยังวิกฤต มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นแต่ละวันกว่า 2 แสนราย เรายังสบายใจไม่ได้" นพ.ทวีศิลป์ กล่าว


โฆษก ศบค.กล่าวว่า จากการสำรวจพฤติกรรมการป้องกันตนเองพบว่ามีแนวโน้มลดต่ำลง ทั้งการสวมหน้ากาก กินร้อน-ช้อนกลางส่วนตัว ล้างมือบ่อยๆ เว้นระยะห่าง เอามือลูบหน้า-จมูก-ปาก โดยคนในต่างจังหวัดยังคงดูแลตัวเองได้ดีกว่าคนกรุงเทพฯ ซึ่งแสดงให้เห็นชัดว่าการ์ดเริ่มตก ขณะที่สถานการณ์มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น


ส่วนการใช้งานแพลตฟอร์มไทยชนะพบว่า ตลาดสดและร้านค้าในตลาดยังไม่มีการใช้งานมากถึง 46.9% ส่วนสาเหตุที่ประชาชนไม่ได้เช็คอินเนื่องจากลืม, ไม่มั่นใจเรื่องความปลอดภัยข้อมูลส่วนตัว, ผู้ประกอบการไม่มี QR Code หรือสมุดให้ลงทะเบียน


สำหรับนโยบายการรับคนไทยกลับจากต่างประเทศภายใต้มาตรการนั้นประชาชนส่วนใหญ่ 88.6% ให้การสนับสนุน ขณะที่ประชาชนส่วนใหญ่ 45.2% ไม่สนับสนุนการเดินทางท่องเที่ยวระหว่างประเทศกับประเทศที่มีการติดเชื้อต่ำ (Travel Buble) และประชาชนส่วนใหญ่ 55.3% มั่นใจว่ารัฐบาลจะสามารถควบคุมการแพร่ระบาดระลอกสองได้


โฆษก ศบค.กล่าวว่า กรณีแขกรัฐบาลจากต่างประเทศเดินทางเข้ามาในช่วงสั้นๆ จะมีมาตรการรัดกุมเพียงพอ และไม่จำเป็นที่จะต้องกักตัวทีมงานที่เข้าไปดูแล เพราะจะมีแนวทางปฏิบัติในการดูแลตัวเองให้เกิดความปลอดภัยอยู่แล้ว ส่วนต่างชาติที่เดินทางเข้ามาตามโครงการ Medical&Wellness Program นั้นมีมาตรการดูแลที่คำนึงถึงความปลอดภัยและการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ซึ่งขณะนี้มีโรงพยาบาลเอกชนลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการแล้ว 85 แห่ง โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬากำลังจัดทำแผนงานท่องเที่ยวที่จะมารองรับกลุ่มต่างชาติในโครงการนี้ที่ผ่านการกักตัวครบกำหนดแล้วไปท่องเที่ยวต่อในพื้นที่ต่างๆ เพื่อสร้างรายได้เข้าประเทศ


ทั้งนี้ หลังจากสถานการณ์ในประเทศไม่พบการติดเชื้อแล้วจะมีการผ่อนปรนเกณฑ์เพื่อให้สามารถคัดกรองผู้ป่วยได้เพิ่มขึ้นจากปัจุบันที่ได้คัดกรองไปแล้วราว 6 แสนคน และขอให้ผู้ประกอบการไม่พึ่งพาแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายที่อาจทำให้เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อระลอกใหม่ได้


Powered by Froala Editor

ข่าวที่คุณอาจสนใจ
TOP NEWS
  • TODAY
  • WEEK
  • MONTH